Last updated: 7 มิ.ย. 2555 | 12821 จำนวนผู้เข้าชม |
เรามาดู ข้อหลักของการดูแลถังดักไขมัน กันก่อนเลย... กรณี เป็นถังดักไขมันใต้ซิงค์ - ระยะเวลาในการนำขยะในตะแกรงออกไปทิ้ง ควรทำทุกวันเพื่อป้องกันการกลิ่นเน่าเหม็น และควรตักแยกไขมันที่สะสมในถังดักไขมันทุกส่วนออกไปกำจัดทุกวัน เช่นกัน เพื่อป้องกันไม่ให้กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ไปรบกวนตัวเราเองและคนรอบข้าง อีกทั้ง ยังทำให้ถังดักไขมันของเรา มีการทำงานที่ดีขึ้นด้วย (ไม่อุดตัน ,น้ำไหลสะดวก) กรณี ที่ใช้ถังดักฝังดิน - ควรแยกเศษอาหารและขยะ ออกทิ้งก่อน การล้างภาชนะ เพื่อไม่ใช้ เศษอาหารและขยะเหล่านั้น ไปหมักหมมอยู่ในถัง ซึ่งจะส่งผลให้ถังของเรามีกลิ่นมาก และอาจทำให้ท่อน้ำเสียอุดตัน อีกด้วย ส่วนการดูแลรักษา ที่ทั้งถังดักไขมันและถังบำบัดน้ำเสีย สิ่งที่ต้องทำเหมือนกัน ได้แก่ ?? ไม่ควรทิ้งเศษสิ่งแปลกปลอมต่างๆที่ย่อยสลายไม่ได้ เช่นถุงพลาสติก ผ้าอนามัย เป็นต้น เหตุผลเดียวกับถังดักไขมันฝังดินเลย มีกลิ่น ท่ออุดตัน แถมถังของเรา ยังเต็มเร็วขึ้นอีก
การใช้น้ำยาล้างห้องน้ำ ไม่ควรใช้น้ำยาล้างห้องน้ำ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่มีความเข้นข้น มากเกินไป และล้างห้องน้ำถี่เกินไป
ระยะเวลาที่เหมาะสมในการล้างห้องน้ำ ควรจะเป็นสัปดาห์ละ 1 ครั้ง แต่ถ้าดูแล้วห้องน้ำของเราเอง สกปรกมาก ก็อาจจะซัก 3-4 วันครั้ง เนื่องจาก น้ำยาเข้มข้น จะส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์(เชื้อที่บำบัดน้ำเสีย) ทำให้ตายลง ถังของเรา จะเสิ่อมประสิทธิภาพลงเช่นกัน (เป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้ถังมีกลิ่นเหม็น) ที่สำคัญ ควรทำการสูบกำจัดตะกอนในส่วนเกรอะของถัง อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เนื่องจาก ในถังมีถังตะกอนที่ย่อยสลายไม่ได้และ ย่อยสลายได้ ส่งผลให้ถัง(ส้วม) เต็ม ทำให้ปริมาตรถังน้อยกว่าความเป็นจริง ถังเราจึงมีประสิทธิภาพลดลง (ส่วนนี้ ก็เป็นอีกสาเหตุของ ถังมีกลิ่นเหม็นเช่นกัน) หน่วยงานที่ ทำหน้าที่ด้านนี้ ก็คือเทศบาล นั่นเอง และ ข้อแนะนำอีกข้อ คือ ระหว่างสูบตะกอนนั่น ควรรีบเติมน้ำกลับเข้าไปด้วย เพื่อป้องกัน แรงดันจากดินด้านข้าง ดันถัง ทำให้ถังแตกเสียหายได้ ควรตรวจสอบท่อระบายอากาศ(ซึ่งจำเป็นต้องต่อขึ้นที่สูง เพื่อป้องกันกลิ่นรบกวนคนรอบข้าง) ว่ายังใช้การได้ดีอยู่หรือไม่ มีการแตกหักชำรุด เสียหาย หรือไม่ ซึ่งอาจทำให้น้ำขังภายในท่อ อากาศไม่สามารถระบายขึ้นที่สูงได้ หรือมีกลิ่นออกมาต่อที่แตกหักเสียหาย (ส่วนนี้ ก็เป็นอีกสาเหตุของ ถังมีกลิ่นเหม็นเช่นกัน) ควรตรวจทางเข้า ออก ของน้ำเสีย(หรือทางไหลของน้ำ) มายังไหลสะดวกหรือไม่ มีสิ่งอุดตันภายในท่อหรือไม่ ถ้ามีการอุดตัน จะเป็นสาเหตุ หนึ่ง ที่อาจทำให้ กดน้ำส่วนโถส้วมไม่ลง เป็นต้น << ดูรายละเอียดมาก แต่ถ้าทำความเข้าใจได้แล้ว ก็จะไม่ยากเลย >> |
9 ต.ค. 2563
9 ต.ค. 2563
9 ต.ค. 2563
9 ต.ค. 2563